คุณกำลังพยายามค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อ วางแผนการรบ? Popasia นำเสนอเนื้อหาทันทีในหัวข้อของ วางแผนการรบ ในโพสต์ด้านล่าง.

ยุทธวิธีการรบแบบคลื่นมนุษย์ โดยศนิโรจน์ ธรรมยศ | หน้าข้อมูลเกี่ยวกับเกมล่าสุด

ดูรายละเอียดในวิดีโอด้านล่าง

รูปภาพธีมวางแผนการรบจัดทำโดย Popasia.

ยุทธวิธีการรบแบบคลื่นมนุษย์ โดยศนิโรจน์ ธรรมยศ
ยุทธวิธีการรบแบบคลื่นมนุษย์ โดยศนิโรจน์ ธรรมยศ

บทความอื่น ๆ กล่าวถึง หน้าข้อมูลเกี่ยวกับเกมมีประโยชน์ที่สุดที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมที่นี่.

ดูเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวางแผนการรบ.

ยุทธวิธีการเข้าตีแบบ “คลื่นมนุษย์” (Human Wave Attack)

บทและบรรยายโดย ศนิโรจน์ ธรรมยศ นักเขียนและนักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยวิคตอเรียแห่งนครเวลลิงตัน (Victoria University of Wellington) ประเทศนิวซีแลนด์

เคยปฏิบัติภารกิจเป็นผู้สังเกตุการณ์ทางทหาร (United Nation Military Observer : UNMO) ประจำกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในติมอร์ เลสเต รวมทั้งยังเคยปฏิบัติภารกิจในตำแหน่ง รองหัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ ที่ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยมีพื้นที่รับผิดชอบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

สำเร็จหลักสูตรความมั่นคงในเอเชียตะวันออก (SEAs 12 : Security of East Asia seminar 2012) มลรัฐฮาวาย สหรัฐฯ – มองโกเลีย – อินโดนีเซีย – ฟิลิปปินส์, หลักสูตรนายทหารประชาสัมพันธ์ภูมิภาคเอเชีย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐฯ , หลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพแคนาดา (CMR course : Civil Military Relations course) กรุงออตตาวา แคนาดา , หลักสูตรการประชาสัมพันธ์กองกำลังรักษาดินแดนสหรัฐฯ (National Guard) มลรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ และหลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือน กองทัพสิงคโปร์

ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษที่วิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, ม.เกษตรศาสตาร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.บูรพา, ม.กรุงเทพ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือจำนวน 9 เล่มคือ “The War” เส้นทางสู่สงคราม, ยุทธการขจัดทรราชย์, สมรภูมิรบสะท้านโลกของฮิตเลอร์, ขุมกำลังสะท้านโลกของฮิตเลอร์, 8 ขุนพลของฮิตเลอร์ , มิคาเอล วิทท์มันน์ เสือรถถังไทเกอร์ของนาซี , สงครามเวียดนาม , ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง และชีวประวัติอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

Credit Youtube

.

https://popasia.net หวังว่า ความรู้ เกี่ยวกับ วางแผนการรบ ที่เรานำเสนอจะ มีค่า สำหรับคุณ.

ผู้คนกำลังมองหาหัวข้อ ยุทธวิธีการรบแบบคลื่นมนุษย์ โดยศนิโรจน์ ธรรมยศ.

วางแผนการรบ

human wave,war,chinese human wave attack,ศนิโรจน์,ครูหนุ่ม,war tactic,ยุทธวิธีการรบ

#ยทธวธการรบแบบคลนมนษย #โดยศนโรจน #ธรรมยศ

36 thoughts on “ยุทธวิธีการรบแบบคลื่นมนุษย์ โดยศนิโรจน์ ธรรมยศ | หน้าข้อมูลเกี่ยวกับเกมมีประโยชน์ที่สุด

  1. นกกระปูดตาแดง says:

    ไม่เอาจะรวด กะขีปนาวุธ งิทีนี้ยังใช้ได้นะครับ มีแต่ยอดมนุษย์แหละดูถูกวิทีนี้ ไรเฟิลยังต้องสับ ปืนกลยังมีถีบบังคับทิศไม่ง่ายเหมือนรถบังคับนะครับ คนหนีตายยังวิ่งเร็วกว่าเสือเลย ทุกวันนี้ ประเทศแถบแอฟฟริกา ชนกลุ่มน้อยในพม่า ยังใช้เป็นพื้นฐานยุทธทวิที

  2. Pm Boonnimitra says:

    ยามนี้จีนก้อนำวิธีใช้ไวรัสCCP. มาใช้แทนคลื่นมนุษย์…กับสงครามนอกแบบแระไงไปได้ไกลทั่วโลก อเมริกากำลังกระอักเลือด…ผลกระทบคนไทยในซานฟรานโดนหางเลขของความเป็นคนเอเชียไปด้วยกับลูกหลงไวรัสโควิดที่ทรัมพ์เรียก Chinese Virus

  3. Pm Boonnimitra says:

    คลื่นมนุษย์เป็นยุทธวิธีเดียวที่คนไทยยามนี้มี คนไทยหมดทางสู้ก้อคงจะเป็นไอ้ตูบฉวยโอกาสใช้ปืนใช้เงินนภาษี๒๐ล้านมาจ้างทหารตำรวจมากมายมาปราบคนไทยเข้ายุคไทยฆ่าไทยตายเกลื่อน ๑๔ตค.๖๓

  4. Phanon Tussanawetin says:

    นอกจากนี้ใน Korea War ก็เป็นที่ถกเถึยงกันอย่างแพร่หลายเรืื่อง Human Wave ซึ่งหลายต่อหลายคนวิจารณ์ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงแบบในหนัง ซึ่งอ.ศนิโรจน์ ก็อธิบายการเข้าตีของกองทัพ VPA (Volunteers People Army)ไว้แล้ว
    ซึ่งที่ผมขอเพิ่มเติมเล็กน้อยเท่าที่ค้นมาดังนี้ครับ ทหารเหล่านี้เป็นผู้กล้าที่ผ่านประสบการณ์รบมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่สงครามกลางเมือง สงครามขับไล่ญี่ปุ่น ซึ่งกลยุทธ์พื้นฐานในการบุกตีเรียกว่า "กลยุุทธ์สามประสาน" (Triple Three Tactic *ชื่อไทยผมตั้งเอาเองนะครับ*) ดังจะปรากฎในนาที 0:41 ลักษณะการจัดตั้ง หน่วยบุกเป็น หน่วยละ 3 คน, 3 หน่วย เป็น 1 หมููุ่ ทหารทั้งสามนายจะทำงานประสานงานกันเป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อมีคนบุกจะมีคุ้มกัน 2 คนสลับกันไป และ ยังประสานงานกับหน่วยข้างๆ โดยมีปืน ค. และ ปืนกลเบา เป็นแนวหลัง บางครั้ง หมวดทหาร 27 คนสามารถกะจายแนว ออกไปถึง 700 เมตร ซึ่งกลยุทธ์นี้ถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับในเวลามืดๆ ก็คงใจเสียน่าดููเพราะคิดไปเองว่ามีทหาร VPA เป็นกองพันๆ ส่วนนึงที่ทำให้ VPA รบชนะในช่วงแรกๆเพราะว่า ทหารเหล่านี้เป็นทหารราบเบาใช้เฉพาะอาวุธประจำกายกระจายตัวเป็นหน่วยเล็กๆเเล็ดลอดผ่านแนวตั้งรับของอเมริกันและเกาหลีใต้ แล้วรวมพลแอบเข้าตีจากแนวหลังและหลักการเข้าตีก็ยึดหลัก Six Combat Principles (คล้ายๆหลักพิชัยยุุทธซุนวู) มีการลวงเพื่อสร้างสถานการณ์ในการเข้าตีและเลือกเป้าหมายในจุดอ่อนฝ่ายตั้งรับ เมื่อฝ่ายตั้งรับถอยทัพกลับไปรวมพลที่แนวหลัง และปรับกลยุุทธบุกและตั้งแนวรับใหม่ได้ก็แก้เกมส์ได้ครับ ฝ่ายอเมริกันได้เปรียบด้านการยิงปืนใหญ่ ทัพอากาศ และ ยานเกราะ ซึ่งน่าจะทำลาย VPA ก่อนการรวมพลเข้าตี ทำให้ต้องยกเลิกกลยุทธ์ Human Wave โดยปริยาย

    ดังนั้นกลยุทธ์ Human Wave มันไม่ได้มีแค่การวิ่งเข้าไปหาความตายอย่างเดียวนะครับ และ ก็ไม่ได้ล้าสมัยเพียงแต่จะเหมาะกับสถานการณ์ไหนนั่นเอง

  5. Phanon Tussanawetin says:

    อันที่จริง อ.ศนิโรจน์ ก็ไ้ด้ตั้งคำถามมาตั้งแต่ต้นคลิปแล้วนะครับ ว่ากลยุุทธ์ Human Wave มีอะไรมากกว่าการวิ่งฝ่ากระสุนไปหาความตาย อันนี้ต้องโทษบทภาพยนตร์ Hollywood ทั้งหลายที่มีการสอดแทรกทัศนะติทางการเมืองในแง่ลบที่ลดค่าความเป็นมนุษย์ของฝ่ายจีนและรัสเซีย และความเป็นดรามาของภาพยนตร์ ในฉากที่มีการทุ่มกำลังพลวิ่งฝ่าแนวตั้งรับจนไปถึงแก่ความตาย จนทำให้หลายต่อหลายคนติดกับดักทางความคิดและความเชื่อผิดๆ

    การรวมศูนย์และทุ่มกำลังโจมตีในจุดเปราะบางก็เป็นกลยุุทธ์ที่ใช้อย่างได้ผลมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งกลยุทธ์นี้อาจแตกต่างกันในส่วนรายละเอียดตามระดับเทคโนโลยีของอาวุธ และ แบบปฏิบัติของกองทัพ ( Army Doctrines ) ซึ่งมันก็แปรเปลี่ยนไปตลอดเวลาของการทำสงครามของมนุษย์ เมื่อเกิดการพ่ายแพ้ก็ต้องหาวิธีแก้เกมส์กลยุทธ์ที่นำชัยนะ ดังนั้นจึงไม่มีวิธีที่ดีที่สุดเสมอไปหรือดีทุกสมรภูมิ เอาง่ายๆหลายต่อหลายคนมักดิดภาพกลยุทธ์ฟาลังซ์อันสุดยอดของกรีก หรือกลยุทธ์การใช้โล่ของทหารจีนฮั่นอันซับซ้อนพิศดาร สุดท้ายชาติกรีกกลายเป็นชาติโรมัน จีนฮั่นต้องหนีหัวซุกหัวซุนเมื่อเจอกับมองโกล

    ตั้งแต่สงคราม Civil War ของอเมริกา ผมคิดว่าฝ่ายตั้งรับก็ไม่จะนำทหารมาเข้าแถวยิงกันแบบในหนังทุกครั้งนะครับ ยุคนี้ฝ่ายตั้งรับทั้งสองฝ่ายก็มีการใช้ Rifle Pits และแนวคูสนามเพลาะ ซึ่งมันก็คล้ายๆกับบังเกอร์สมัยนี้ ดังนั้นการเข้าตีจึงต้องใช้การระดมยิงของปืนใหญ่จนฝ่ายตั้งรับเสียหาย ฝ่ายเข้าตีจึงเคลื่อนทัพเข้าตี เช่นเดียวกันกับกับ WWI, WWII ก่อนการเข้าตีแนวหน้าของฝ่ายตั้งรับจะถูกปืนใหญ่ระดมยิงจนกว่าฝ่ายเข้าตีจะเข้าประจำจุดโจมตีและมั่นใจว่าแนวตั้งรับเกิดความเสียหายมากพอ และะเมื่อเริ่มโจมตี ปืนใหญ่จะถูกเปลี่ยนเป้าหมายไปยังแนว Support ของฝ่ายตั้งรับเพื่อป้องกันการรยกทัพมาเสริมแนวหน้า หรือ ทำลายกองทัพที่กำลังถอย บางครั้งการยิงจะค่อยๆขยับเข้าหาแนวข้าศึกเพื่อให้ทหารฝ่ายบุกค่อยๆรุกคืบเข้าหาแนวหน้าข้าศึก ใน WWI ทัพฝรั่งเศษเสียทหารไปถึง10%ของยอดทหารที่เสียชีวิตทั้งหมดจากการยิงปืนใหญ่ของฝ่ายเดียวกัน ( Barrage (artillery), Wiki) เช่นเดียวกับฝ่ายเยอรมันที่เป็นเลิศในการตั้งรับ มีการดัดแปลงพื้นที่สมรภูมิให้ฝ่ายบุกต้องวิ่งอ้อมสิ่งกีดขวางจนเข้าทางปืน และ ทำการออกแบบหลุมหลบปืนใหญ่ที่อยูุ่ใต้ดินลึกราว15เมตร เพื่อลดดวามสูญเสียชีวิตทหารจากการระดมยิงปีนใหญ่ (บางสมรภูมิฝ่ายเยอรมันถููกยิงติดด่อกันเป็นอาทิตย์) และผมเชื่อว่าทหารฝ่ายบุกไม่ได้วิ่งโทงๆเข้าตี แต่น่าจะวิ่งหมอบๆ ไปตามหลุมระเบิดและสิ่งกีดขวางต่างๆ เพราะว่า ผมเคยอ่านเจอว่าส่วนนึงที่เยอรมันเลือกใช้ปืนกลที่มีอัตตรายิงสูง เนื่องจากเมื่อการรบกับทหารอังกฤษที่มีหลักการพี้นฐานลักษณะการเคลื่อนที่แบบ หมอบ…ลุกขึ้นวิ่ง…หมอบ เมื่อพลปืนกลเยอรมันจับทางวิ่งได้แล้วยิงดักหน้า แต่ด้วยอัตตรายิงราว 400-500 rpm ทำให้ยิงไม่โดน ทางทหารเยอรมันจึงได้เสนอความเห็นขอปืนกลที่มีอัตตรายิงสูงกว่านี้ ซึ่ง MG34, MG42 มาปรากฎใน WWII ดังนั้นแสดงว่าปัญหานี้เกิดขึ้นในยุค WWI และน่าจะแสดงให้เห็นว่าทหารฯไม่น่าจะวิ่งเข้าหาตรงๆแบบในหนัง และในหนังสือ All Quiet on the Westtern Front ที่ตัวเอกเล่าว่าทหารในหน่วยเค้า สามารถขว้างระเบิดได้ไกลถึง 75-100 เมตรเพื่อทำลายรังปืนกล ซึ่งผมคิดว่าการขว้างแบบนี้ คนขว้างน่าจะยืนอย่างมั่นคงในหลุุมระเบิด ถ้าหมอบหรือคลานไม่น่าจะขว้างได้ไกลและแม่นขนาดนั้น

  6. Percy Angelo says:

    แก๊ง nato ไม่มีใครทำเลยครับ แสดงว่า คอมมิวนิสต์เค้าปลุกปั่นหรือบังคับแนวหน้าครับ เค้าพร้อมจะตายกันจริงหรือป่าว *น่าจะมีญี่ปุ่นประเทศเดียวไหมครับ ที่แนวหน้ายอมตายเพื่อชาติ

  7. daniel brown says:

    ในยุคอดีต เขาจะใช้กองทหารจากพวกหัวเมืองประเทศราชเป็นแนวหน้าในการเข้าจู่โจมแบบคลื่นมนุษย์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษก็ใช้กองกำลังต่างเชื้อชาติจากโพ้นทะเล แล้วพอสงครามโลกครั้งที่ 2 โซเวียตก็ใช้กองทหารเชื้อชาติในอาณัติ เช่น ยูเครน ลิทูเอเนีย คาซักสถาน ทาจิกิสถาน มาเป็นแนวหน้า กองทัพญี่ปุ่นก็ใช้ทหารเชื้อชาติไต้หวัน เกาหลี และริวกิวเป็นหลัก กองทัพเวียดมินห์ได้ใช้กองทัพชาวไทดำซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งในเวียดนามมาเป็นแนวหน้า กองทัพสยามในอดีตก็จะใช้กองทหารจากหัวเมืองประเทศราชอย่างล้านนา ล้านช้าง มาเป็นทัพหน้าครับ

  8. Gf A says:

    ยังไงผมก็คิดว่าไช้แบบกองโจรจะดีกว่า..สมเด็จพระนเรศวรมหาราช…พระองค์ไช้มาเมื่อหลายร้อยปีก่อน..ปัจจุบันก็ยังไช้ได้ดี..เอามาดัดแปลงขึ้นอึกนิดหน่อย..ดีกว่าเอาชีวิตทหารมาสังเวยชีวิต

ใส่ความเห็น