เนื้อหาของบทความนี้จะพูดถึงพระ ขี่ ม้า หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับพระ ขี่ ม้ามาสำรวจกันกับpopasia.netในหัวข้อพระ ขี่ ม้าในโพสต์พระขี่ม้า | อึ้งทึ่งเสียวนี้.

ข้อมูลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับพระ ขี่ ม้าในพระขี่ม้า

ชมวิดีโอด้านล่างเลย

ที่เว็บไซต์PopAsiaคุณสามารถอัปเดตเนื้อหาอื่น ๆ นอกเหนือจากพระ ขี่ ม้าสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับคุณ ที่เพจPop Asia เราอัปเดตข่าวสารใหม่และแม่นยำสำหรับผู้ใช้เสมอ, ด้วยความหวังว่าจะได้มอบคุณค่าที่ละเอียดที่สุดให้กับผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มข้อมูลในเครือข่ายได้อย่างแม่นยำที่สุด.

ข้อมูลบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อพระ ขี่ ม้า

#ใครๆก็ดูช่อง8

รูปภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารเกี่ยวกับพระ ขี่ ม้า

พระขี่ม้า | อึ้งทึ่งเสียว
พระขี่ม้า | อึ้งทึ่งเสียว

นอกจากการเรียนรู้เนื้อหาของบทความ พระขี่ม้า คุณสามารถค้นพบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง

รับชมเพิ่มเติมได้ที่นี่

คำแนะนำเล็กน้อยที่เกี่ยวข้องกับพระ ขี่ ม้า

#พระขมา #องทงเสยว.

ช่อง8,Thaich8.

พระขี่ม้า | อึ้งทึ่งเสียว.

พระ ขี่ ม้า.

หวังว่าเนื้อหาบางส่วนที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอขอบคุณที่อ่านบทความพระ ขี่ ม้าของเรา

33 thoughts on “พระขี่ม้า | อึ้งทึ่งเสียว | เนื้อหาทั้งหมดเกี่ยวกับพระ ขี่ ม้าที่สมบูรณ์ที่สุด

  1. Kingchan Ngamtan says:

    พระใช้ม้าเผยแผ่พระศาสนาคนก็ว่าเป็นสาวกของปีศาจพระสังกำจั๋งก็ใช้ม้าเป็นพาหนะในการเผยแผ่พระศาสนาเหมือนกันถึงจะว่าท่านเป๋นปีศาจแต่ก็ทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดืนและศาสนา

  2. Kingchan Ngamtan says:

    สร้างบารมีโพธิญาณเพื่อช่วยเวยนัยสัตว์โลกให้พ้นอบายภูมิสี่ตามกำลังวาสนาของตนและก็คงยังไม่รู้ว่ากิจของสงฆ์คืออะไรข้าน้อยโง่เขลาเบาปัญญาช่วยบอกเอาบุญด้วยนะ

  3. Kingchan Ngamtan says:

    พระสังกำจั๋งพระคุณเจ้าได้เดินทางผ่านภูเขาห้วยหนองคลองบึงเพื่อไปอันเชิญพระไตรปืฎกที่อินเดีย๋มาเผยแผ่พระศาสนาโดยใช้ม้าเป๋นพาหนะในการเดินทางนั่งหล้งม้าไปเป๋นแรมปียังคงไม่รู้ว่าเป็นกิจของปีศาจแต่ก็นับว่าได้สร้างบารมี

  4. Flora Blue star says:

    ก็เหมือนบ้านที่ติดน้ำ ก็มีพระพายเรือบิณฑบาต​ ส่วนใหญ่​พบในภาคกลาง ชาวบ้านไม่ได้เห็นเเปลกอะไร ภาคเหนือเราก็มีพระขี่ม้า​บิณฑบาต​ไง มันก็ทำนองเดียวกัน พระในหนังไซอิ๋วของจีนยังขี่ม้าเลย

  5. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html
    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614
    http://www.tripitaka91.com

  6. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html
    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614
    http://www.tripitaka91.com

  7. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html
    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614
    http://www.tripitaka91.com

  8. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html
    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614
    http://www.tripitaka91.com

  9. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html
    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614
    http://www.tripitaka91.com

  10. Chaturaphit Thachoho says:

    วัดที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญ ข้อนค่างจะเป็นเรื่องลำบากในการเข้าไปบิณบาตรภายในหมู่บ้าน ก็ต้องมีความจำเป็นต้องใช้ม้าหรือยานพาหะนะ หรือจะเป็นเรือตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา จึงขอให้พวกคุณกลับมาคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนอย่าโลกสวย

  11. YES YOU SEE says:

    คำว่า หลวงพี่ เขาใช้เรียกพระที่อายุยังไม่มาก หรืออายุเท่าๆกับโยมที่เรียกพระ ดังนั้น พิธีกร ควรใช้สัพพนามในการเรียกพระให้ถูกต้องด้วย ถ้าท่านอายุมากกว่า ควรให้เกียรติท่าน้นเรียกท่านว่า พระอาจารย์ หรือว่า หลวงพ่อ ก็ได้ครับ.

ใส่ความเห็น