เนื้อหาของบทความนี้จะเกี่ยวกับอาหาร ที่ เป็น ด่าง หากคุณกำลังมองหาอาหาร ที่ เป็น ด่างมาถอดรหัสหัวข้ออาหาร ที่ เป็น ด่างกับpopasia.netในโพสต์Sci Find ปี 2 ตอน ดื่มน้ำด่าง กินอาหารด่าง ดีต่อสุขภาพจริงหรือนี้.
สารบัญ
ภาพรวมของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอาหาร ที่ เป็น ด่างที่สมบูรณ์ที่สุดในSci Find ปี 2 ตอน ดื่มน้ำด่าง กินอาหารด่าง ดีต่อสุขภาพจริงหรือ
ที่เว็บไซต์popasia.netคุณสามารถเพิ่มความรู้อื่น ๆ นอกเหนือจากอาหาร ที่ เป็น ด่างสำหรับข้อมูลที่มีค่ามากขึ้นสำหรับคุณ ที่เว็บไซต์PopAsia เราอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ ที่ถูกต้องให้คุณทุกวัน, ด้วยความหวังที่จะให้บริการคุณอย่างคุ้มค่าที่สุด ช่วยให้คุณจับข่าวออนไลน์ที่แม่นยำที่สุด.
เนื้อหาเกี่ยวกับหัวข้ออาหาร ที่ เป็น ด่าง
ดื่มน้ำด่าง ทานอาหารที่เป็นด่าง ดีต่อสุขภาพ จริงหรือ? ข้อมูลโดย ศาสตราจารย์ ดร.ธนกุล วันประเสริฐ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ถาม : การกินอาหารที่เป็นด่างจะช่วยปรับความเป็นด่างของเลือดได้จริงหรือ ? A: การอ้างว่าการรับประทานอาหารที่เป็นด่างหรือน้ำที่มีความเป็นด่าง สามารถทำให้ระดับค่าความเป็นกรดหรือด่างในเลือดเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยสำคัญ มันผิดทางสรีรวิทยามาก เนื่องจากร่างกายมนุษย์มีกลไกควบคุมระดับ pH ของเลือดให้คงที่ตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ผ่านระบบบัฟเฟอร์เคมีในเลือด และระบบควบคุมการหายใจเพื่อปรับการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ รักษาค่า pH ของเลือดให้อยู่ในระดับที่สมดุล ถาม: การรับประทานอาหารที่เป็นด่าง ช่วยต้านมะเร็งได้จริงหรือ? ตอบ: มีการอ้างว่าการรับประทานอาหารที่เป็นด่างจะช่วยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของร่างกายให้เป็นสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างเพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็งซึ่งเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด ในความเป็นจริง สภาวะที่เป็นกรดไม่ได้สร้างและเพิ่มจำนวนมะเร็ง แต่เป็นเซลล์มะเร็งที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด การที่ผู้ป่วยมะเร็งรับประทานอาหารที่เป็นด่างมากเกินไป ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงจากการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกรดไขมันและโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ถาม: น้ำอัลคาไลน์จากเครื่องกรองน้ำบางยี่ห้อ จะช่วยรักษาโรคได้จริงหรือ? A: มีประกาศขายเครื่องทำน้ำด่าง มีทั้งแบบที่ใช้สารกรองที่เติมสารเคมีเพื่อปรับค่า pH ของน้ำ และตัวที่ส่งผ่านไฟฟ้าเพื่อสลายสารเคมีที่เป็นสื่อไฟฟ้าที่เรียกว่า ionized water ซึ่งอ้างว่ามีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย และป้องกันโรค แต่ในความเป็นจริง ไม่เคยมีการศึกษาวิจัยสนับสนุนคำกล่าวอ้างดังกล่าว และการดื่มน้ำอัลคาไลน์ก็ไม่ทำให้ pH ของเลือดเปลี่ยนแปลง ตามหลักการรักษาสมดุลกรด-ด่างภายในร่างกาย (acid-base homeostasis)
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ที่ เป็น ด่าง
นอกจากการเรียนรู้เนื้อหาของบทความ Sci Find ปี 2 ตอน ดื่มน้ำด่าง กินอาหารด่าง ดีต่อสุขภาพจริงหรือ นี้แล้ว คุณสามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมด้านล่าง
คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ที่ เป็น ด่าง
#Sci #Find #ป #ตอน #ดมนำดาง #กนอาหารดาง #ดตอสขภาพจรงหรอ.
[vid_tags].Sci Find ปี 2 ตอน ดื่มน้ำด่าง กินอาหารด่าง ดีต่อสุขภาพจริงหรือ.
อาหาร ที่ เป็น ด่าง.
หวังว่าข้อมูลบางส่วนที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอบคุณมากสำหรับการรับชมอาหาร ที่ เป็น ด่างข่าวของเรา
เอาจริงว่ารำคาญเสียงเอฟเฟคมากครับ รกหูมาก
น้ำที่มีด่างสูงก็คือ น้ำตราสิงห์ กับน้ำกลั่นแบตเตอรี่
กินน้ำมะนาวเข้าไปแล้วเป็นขี้เถ้าคืออะไรครับ
กินน้ำด่างมากเกินไปก็เหมือนกับกินน้ำยาล้างห้องส้วมที่ไม่ทำลายผิวนอกแต่ทำลายเซลล์ภายใน ถ้ากินน้ำด่างดีทำไมมันไม่กินเยอะๆทำไมต้องผสมน้ำ ธรรมดา ให้เจือจางทำไม ทำไมในเครื่องกรองน้ำ ถึงต้องมีตัวทำละลายน้ำด่างซึ่งเป็นสารที่มีตะกอนอยู่เยอะ ในน้ำบาดาล ในน้ำบาดาลถ้ากินมากเกินไปก็เป็นนิ่ว เพราะมันเป็นด่าง
น้ำมะนาวเป็นกรดแต่ผ่านระบบการย่อยทำให้เป็นด่างไม่ใช่หรือครับ
อาจารย์ลองยัง ครับ ลองแล้วจึงมาพูดได้
อาจาร แดกเนื้อแดกโค้กทุกวันเลือดก้ไม่เป้นกรดใช่มั้ย เพราะจารบอกร่างกายมันปรับได้หมด อิอิ จบเมกามาก้เงี้ยต้องแดกนมเลิกแดกไข่ ต้องน้ำมันถั่วเหลือง เลิกน้ำมันมะพร้าว ต้องชีสมายองเนส เลิกเมี่ยงคำ
ตอนนี้ประเทศไทยเชื่ออะไรไม่ได้หรอก แม้แต่ อย.ก็เชื่อไม่ได้
อาจารณ์ มึงมาสอนความรู้เก่าป่าววะ แล้วที่บอกว่า กินน้ำด่างแล้วอาจจะ…. ตกลงจารณ์เคยทำวิจัยหรือทดสอบเชิงวิชาการณ์มั่งยัง ดูๆ พูดกว้าง ๆยังไงไม่รู้.
น้ำด่างดียังไงขอให้ลองไปดูคลิป ด.ร.กำพล แนะให้กินน้ำเบกกิ้งโซดา แต่ปริมาณที่ด.ร.แนะนำให้ทานมากเกินไปอย่าทานเยอะ https://www.youtube.com/watch?v=BlYr4a-sxvs ,https://www.youtube.com/watch?v=bvof2ALBzuI
เกี่ยวกับน้ำด่างเขามีงานวิจัยแล้วว่ามันดีต่อสุขภาพมันช่วยป้องกันและรักโรคได้ยังใง หมอปัจจุบันรักษาโรคมะเร็งมันรักษาที่ปลายเหตุ สุดท้าย ตายหมด เพราะหมอไม่เคยบอกคนไข้ว่ามะเร็งเกิดขึ้นได้ยังไง พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า จะแก้ปัญหาให้ดูที่สาเหตุให้ดูที่ต้นเหตุมันถึงจะแก้ได้ การดื่มน้ำด่างก็คือการแก้โรคที่สาเหตุที่ต้นเหตุ โรคมันถึงหาย แต่อย่างว่าเนาะถ้าพูดว่าน้ำด่างรักษาโรคได้ พวกคุณคงหมดอาชีพ ไม่ได้ขายยาเจ๊งระดับโลกแน่ๆๆ 555
สังเกตุสัตว์กินพืชอายุจะยืนกว่าสัตว์กินเนื้อ
จะบอกคลิปโง่ๆนี้ให้ฉลาด ร่างกายต้องการสมดุลด่างค่า PH 7.5- 8
ส่วนขี้เถ้าค่า PH 12 ใครมันจะไปกินได้ ไอ้ควาย
คนทุกวันในโลกใบนี้ เป็นโรคภัยไข้เจ็บเต็มโรงพยาบาล ก็เพราะภาวะเลือดเป็นกรด เพราะไม่สามารถรักษาสมดุลด่างได้ ร่างกายจึงไปดึงไขกระดูกรักษาสมดุลให้เลือดเป็นด่าง
อาจารย์คนนี้มันจบมาได้ไงวะ
คุณพูดไม่หมดกระบวนความนะครับ องค์รวมของสุขภาพที่ดี ไม่ได้ขึ้นกับแค่สิ่งเดียว ด่างหรือกรดเท่านั้น ที่บอกว่าดื่มน้ำด่างไม่ได้รักษาโรคมะเร็งได้นั้น ก็อาจจะจริงไม่ได้รักษาโดยตรง แต่น้ำด่างไปปรับธาตุปรับความสมดุลย์ของร่างกาย เมื่อมีความสมดุลย์(สายกลาง)โรคมะเร็งก็ไม่เกิดทุกคนมีโรคมะเร็งนี้อยู่ในร่างกายทุกคนอยู่แล้ว ที่ไม่แสดงอาการเพราะร่างกายยังมีสมดุลย์(มัชฌิมา) ที่ที่พูดว่าจะกินกรดหรือด่างมากๆร่างกายสามารถปรับสมดุลย์ได้เองนั้น คุณไม่ศึกษาต่อไปอีกว่า กว่าร่างกายจะปรับความเป็นกรดได้ต้องดึงเอาแคลเซี่ยมจากกระดูกมามากขนาดไหน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้กระดูกพรุน ?
กินอาหารที่เป็นกรดมากๆ เช่น เนื้อหมู วัว ไก่ เป็ด น้ำอัดลม
ร่างกายก็จะมีสภาพกลายเป็นกรดในเลือดมาก…ดังนั้นการปรับความสมดุลของร่าง..คือการดึงเอาแคลเซี่ยมจากกนะดูก เช่นฟัน หัวเข่า..มาปรับความสมดุลในเลือด..ร่างกายสูญเสียแคลเซี่ยมทำให้ฟัยไม่แข็งแรงหรือโรคกระดูกพลุน..การกินน้ำด่างนั้น..เขาใช้ผสมกับน้ำธรรมดาให้น้ำมีค่า ph 8-9 เท่านั้น..เพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระ..ลองไปฟัง อ.ปานเทพ ดูแล้วกัน.แล้วก็จะหูตาสว่าง
มึงเป็นมะเร็งแล้วรู้เองว้ามึงจะแดกน้ำด่างมัยวิจัยสนตีนจบมาได้ยังไงร่างกายจะปรับสมดุลเองถูกอยู่บ้างไอ้ควายยยแต่ร้างรับกรดไปทุกวันนนวันก็มึโอกาสเป็นกรดสูงจนกลายเป็นโรคร้ายหลายโลกร่างก็แก่ลงทุกปีเหี้ยยมึงคิดว้าปรับสมดุลๆด้ตลอดเหรอสนตีน
ไอ้ควายยเผือกมึงกินกรดมากกร่างกายไมาสามารถกลับมาเป็นด่างได้อีก
ทดลองกินน้ำแล้ว ผมหงอกน้อยลง ผิวดีขึ้น ปกติเวลากินโค๊ก กินชาเยอะๆจะเจ็บไต แต่เวลากินน้ำด่างไม่เจ็บแล้ว ทดลองอะไรก็ทดลองไป อย่าลืมทดลองกินด้วย แต่อย่ากินน้ำด่างหลังอาหารใหม่ๆ
ทานน้ำด่างต้องไม่ใส่น้ำตาล
พวกคัดค้านต้อนนี้คือพวกใส่ขวดต่างๆ เพราะพวกนี้น้ำตาลสูง
ดื่มหรือกินอะไรที่เป็นกรดจริงอยู่ร่างกายจะปรับความสมดุลให้อยู่ที่ ph 7.3 แต่อย่าลืมคิดไปว่าอะไรทำให้เกิดความสมดุล…..ก็แคลเซี่ยมในร่างกายไง..(ที่เป็นกระดูกไง) มันจะทำให้กระดูกผุ
สรุปว่ายังไงควรกินอาหารที่เป็นด่าง ถ้ากินอาหารเป็นกรดอย่างเดียวจะเกินอะไรขึ้นกับร่างกาย
ถามเเบบคนโง่ๆครับ น้ำลายคนเราเป็นกรดอ่อนๆที่6-6.5 กระเพราะย่อยของเราก็มีน้ำย่อยเป็นกรด
หากกินน้ำด่างที่phสูง จะทำให้ท้องอืดหรือรบกวนระบบการย่อยที่เป็นกรดรึป่าวครับ เพราะจากที่เคยดื่มมา น้ำด่างพวกเเร่ จะทำให้อยู่ท้องเเละอิ่ม จริงๆครับ เเละ โรงงานน้ำดื่ม ที่ผลิตน้ำ ค่าphต้อง 6.5-8.5 ถึงจะผ่าน อันนี้ถูกมั้ยครับ ต่ำหรือเกินนี้ คือเกินค่าที่ระบบร่างกายของมนุษย์ อาจเป็นอันตรายในระยะยาวเช่นน้ำอัดลมที่มีกรดph 3 ได้ ถามเบบคนโง่ๆนะครับ ขออภัย
การทดลองเพียงแค่เอากระดาษลิตมัสมาวัดค่าความเป็นกรดและด่าง แล้วมาสรุปเอานั้นไม่ใช่การวิจัยทดลองที่สามารถเป็นที่ยอมรับในเชิงวิชาการได้ ที่ถูกต้องควรจะทำการวิจัยทดลองให้ได้ผลชัดเจนกับสัตว์ทดลองหรือถ้าเป็นไปได้ก็ให้ทำการวิจัยทดลองกับมนุษย์ให้ได้ผลสรุปวิจัยที่ชัดเจนจะดีกว่าที่ใช้วิธีเอาน้ำมะนาวมาอ้างแบบนี้ครับ ให้ลองศึกษากรณีศึกษาของในต่างประเทศเช่นในประเทศญี่ปุ่นที่มีการคิดค้นและวิจัยเครื่องทำน้ำอัลคาไลน์ที่ผลิตออกมาด้วยกระบวนการแยกน้ำด้วยไฟฟ้าหรือเรียกว่ากระบวนการอิเล็กโตรไลซิส(Electrolysis) ซึ่งนอกจากจะผลิตน้ำที่มีค่าความเป็นด่างออกมาได้แล้ว ยังจะได้ประจุลบในน้ำเพิ่มมาด้วยซึ่งน้ำทั่วไปจะไม่มีประจุลบ (ในน้ำมะนาวที่มีความเป็นกรดจะมีวิตามินซีเจือปนอยู่ แต่ถ้าหากศึกษาให้ลึกกว่านี้จะพบว่า วิตามินซีเมื่อสลายตัวในน้ำแล้วจะสร้างประจุไฟฟ้าให้เป็นลบ ประมาณ -100 mV ทำให้ค่าประจุไฟฟ้าในน้ำที่มาผสมหรือเป็นตัวทำละลายจะมีค่าลดลง หรือที่เราเรียกกันว่า ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระหรือแอนทิออกซิแดนซ์นั่นเอง วิตามินที่สลายตัวแล้วได้ประจุไฟฟ้าเป็นลบ ได้แก่ วิตามิน A, C, E เป็นต้น วิตามินที่สามารถละลายน้ำได้คือ วิตามิน B และ C นอกนั้นจะลายได้โดยไขมัน เช่น A, D, E และ K ) ประเทศญี่ปุ่นได้ทำการศึกษาพบว่าเซลล์มะเร็งสามารถเติบโตได้ดีในภาวะที่เลือดเป็นกรดหากภาวะที่เลือดเป็นด่างจะเติบโตได้ไม่ดี ถ้ามีความเป็นด่างเซลล์มะเร็งจะสามารถฝ่อและตายไปได้ และน้ำอัลคาไลน์ที่ผลิตได้จากกระบวนการแยกน้ำด้วยไฟฟ้าจะมีพันธะการเกาะตัวกันของกลุ่มโมเลกุลของน้ำที่เล็กลงแบบชั่วคราว โดยจะมีพันธะการเกาะตัวกันของกลุ่มโมเลกุลของน้ำเล็กกว่าน้ำปกติทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า น้ำปกติทั่วไปจะมีขนาดพันธะการเกาะตัวกันของโมเลกุลของน้ำ(H2O) เกาะเกี่ยวกัน 10 – 13 โมเลกุลต่อน้ำหนึ่งกลุ่ม หรือน้ำหนึ่งพันธะ นั่นเอง โดยกระบวนการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า(Electrolysis) จะทำให้การเกาะรวมตัวกันของกลุ่มโมเลกุลน้ำมีขนาดเล็กลง เหลือเพียง 5 – 6 โมเลกุลต่อน้ำหนึ่งกลุ่ม หรือน้ำหนึ่งพันธะ หรืออาจเรียกว่า กลุ่มน้ำที่มีขนาดเล็ก(Micro-clustered Water) นั่นเอง ซึ่งกลุ่มน้ำที่มีขนาดเล็กจะสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ของร่างกายได้อย่างรวดเร็วกว่ากลุ่มน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่า ถึงแม้ว่าการดูดซึมน้ำให้ผ่านเข้าสู่เซลล์นั้น น้ำจะต้องผ่านทางอะควาโพริน(Aquaporin) หรือเรียกว่าช่องทางผ่านเข้า-ออกของน้ำ(Water channel)และแร่ธาตุต่างๆ โดยอะควาโพรินจะอยู่บนเยื่อหุ้มเซลล์และยอมให้โมเลกุลน้ำผ่านได้ทีละ 1 โมเลกุล โดยจะเป็นการไหลผ่านอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เนื่องจากความกว้างของอะควาโพรินมีขนาดประมาณ 2.8 อังสตรอม ขนาดของน้ำ 1 โมเลกุลมีขนาดประมาณ 2.78 อังสตรอม แต่อย่างไรก็ตามน้ำที่มีพันธะเล็กกว่าหรือพันธะที่สั้นกว่าก็จะถูกดูดซึมผ่านทางอะควาโพรินได้เร็วกว่าน้ำที่มีพันธะใหญ่กว่าหรือพันธะที่ยาวกว่านั่นเอง ดังนั้นจึงอยากขอให้ท่านนักวิทยาศาตร์อย่าได้ด่วนสรุปโดยทันทีจากการทดลองง่ายๆที่ยังไม่ใช่การวิจัย ควรลองศึกษาและวิจัยทดลองให้ถ่องแท้มากกว่านี้ก่อนที่จะสรุปและวิจารณ์นะครับ
Why, no one drink ash water anyway…right?